วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

เสิร์ฟมันฮา ประสาบริกร- สตีฟ ดับลานิกา ( Waiter Rant-Steve Dublannica)


Story : R.ANCHALEE เสิร์ฟมันฮา ประสาบริกร- สตีฟ ดับลานิกา ( Waiter Rant-Steve Dublannica)


 
                         เสิร์ฟมันฮา ประสาบริกร  Waiter Rant *The Waiter Steve Dublannica
 

หนังสือ เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  Waiter Rant เป็นผลงานของ สตีฟ ดับลานิกา ผู้ได้ชื่อว่าเป็น "ปากเสียงของของบริการสองล้านคนในสหรัฐอเมริกา" แอนโทนี่ บอร์เดน ผู้เขียนหนังสือ Kitchen Confidentcial ให้คำนิยมว่า "นี่คือคิทเช่น คอนฟิเดนเชี่ยล ฉบับหน้าร้านโดยแท้ ช่างสนุกร้ายกาจเป็นชีวิตบริกรที่เลือดตาแทบกระเด็น"
 
สตีฟ ดับลานิกา หรือ "เดอะ บริกร" เคยใฝ่ฝันอยากเป็นนักบวชตั้งแต่ยังเล็กแต่เมื่อเรียนจบกลับเปลี่ยนใจเข้าสู่วงการธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและบำบัดจิต แต่เกิดขัดแย้งกับเจ้านายของเขา  สตีฟ ดับลานิกา กลายเป็นคนตกงานในวัย 30 ปี สตีฟ ดับลานิกา ตัดสินใจทำงานเสิร์ฟระหว่างรองานประจำใหม่ แต่กลับเป็นว่าเขาทำงานเสิร์ฟอยู่ถึง 6 ปี ระหว่างนั้นเขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเขียนบล็อกแฉชีวิตเด็กเสิร์ฟ โดยใช้ชื่อบล็อกว่า Waiter Rant และปกปิดชื่อจริงนามสกุลจริงของเขาและใช้นามปากกาว่า "เดอะบริกร"( The Waiter) บล็อกของเขาได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนได้รับรางวัล งานเขียนเว็บบล็อกยอดนิยมประจำปี 2007(Bloggie Award for best writing of weblog) และพลิกชีวิตสตีฟให้กลายมาเป็นนักเขียนอาชีพ

เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  (Waiter Rant) เป็นหนังสือเล่มแรกของ สตีฟ ดับลานิกา และทันทีที่วางแผงก็ทะยานติดอันดับหนังสือขายดีของนิวยอร์กไทมส์ เขายังได้รับเชิญไปออกรายการโอปรา วินฟรีย์ พิธีกรรายการทอล์กโชว์ชื่อดังของอมเริกาอีกด้วย

เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  (Waiter Rant)
เป็นหนังสือเล่มเด่นในวงการเด็กเสิร์ฟจนถึงทุกวันนี้
สตีฟได้ถ่ายทอดประสบการณ์อาชีพบริกร ซึ่งเราน้อยคนนักที่จะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของอาชีพนี้อย่างแท้จริง พวกเรารับรู้แค่ว่าบริกรมีแค่หน้าที่นำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะอาหาร แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
อาชีพบริกรมีความกดดันไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศหรู ไหนจะเป็นการสู้รบปรบมือกับพนักงานคนอื่นๆ ในร้าน ทั้งบริกรที่เหมาหยำเปมาทำงาน พนักงานต้อนรับขี้โมโห พ่อครัวเจ้าอารมณ์ ผู้จัดการที่จ้องจะเฉือดเฉือน และเจ้าของร้านที่หวาดระแวงตลอดเวลา และไหนจะเป็นความเพี้ยน ความเอาแต่ใจ ของลูกค้าที่เรียกว่ามีมาทุกรูปแบบ แต่ไม่ว่าลูกค้าจะมาแบบไหน บริกรอย่างสตีฟ ก็ต้องเอาให้อยู่หมัด

ความสนุกสนานของหนังสือ เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  (Waiter Rant) อยู่ตรงนี้เอง ตรงฉากที่เรามองไม่เห็นฉากของหลังร้านที่แสนจะวุ่นวาย เราซึ่งเป็นลูกค้าหรือผู้ใช้บริการมักจะไม่ใส่ใจกับพวกบริกรหรอกนะ เรารู้แค่ว่าถ้าอาหารมาช้าเมื่อไหร่ฉันจะบ่นเธอเมื่อนั้น อาหารรสชาติไม่ถูกปากเมื่อไหร่บริกรจะต้องถูกต่อว่าเป็นลำดับแรก ทั้งที่ความผิดอยู่ที่พ่อครัวอารมณ์บูดเพราะทะเลาะกับเมียเมื่อคืนก็เป็นได้ ความปวดเศียรเวียนเกล้าจากการจ้องจับผิดของเจ้าของร้านตลอดเวลา นี่มันเป็นอาชีพที่ต้องเผชิญกับมหากาพย์ความเครียดชัดๆ โดยไม่ต้องสงสัย และสตีฟก็ได้ถ่ายทอดอีกมุมหนึ่งจากฉากหลังของร้านอาหารออกมาให้พวกเรารับรู้อย่างกระจ่าง จนรู้สึกว่าคราวต่อไปถ้าไปใช้บริการร้านอาหาร "ฉันจะแคร์เธอ พวกบริกรให้มากกว่านี้นะ และฉันจะไม่ลืมให้ทิปเธอด้วย"

หนังสือ เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  (Waiter Rant) เป็นเรื่องราวกวนๆ ขำๆ ทั้งจากพนักงานในร้าน
และจากลูกค้าสุดเพี้ยนบางคน อ้อ! จะบอกว่าลูกค้าไม่ได้เป็นปกติทุกคนหรอกนะ บางครั้งบริกรอย่างเขาก็เจอกับพฤติกรรมสุดประหลาด
ของลูกค้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ่อยๆ

หนังสือ เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  (Waiter Rant) สนุกตรงที่สำนวนประชดประชัน เหน็บแหนมได้เจ็บจี๊ดหัวใจ ตลอดระยะเวลา 6 ปีของการทำงานในร้านอาหารของ สตีฟ ดับลานิกา ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้เผชิญเรื่องราวต่างๆ ทั้งสุข เศร้า เหงา ยินดี ไปพร้อมๆ กับเขาด้วย เป็นความผูกพันที่ก่อเกิดจากการอ่านหนังสือทีละหน้าทีละหน้า ใครที่ชื่นชอบเรื่องเล่าทำนองนี้ กับเป็นผู้ที่สนใจเรื่องอาหารก็ไม่ควรพลาดเล่มนี้ด้วยประการทั้งปวง

อ้อ! แต่ขอเตือนลูกค้าบางท่านก่อนนะว่า อย่าไปทำอะไรให้เหล่าบริกรไม่พอใจเป็นอันขาด มิฉะนั้นคุณอาจได้ทานเนื้อเบอร์เกอร์ที่พนักงานครัวตีไปตีมาบนพื้นเหมือนลูกฮอว์กกี้ก็เป็นได้ อันนี้ไม่ได้พูดเองนะครับ  สตีฟ ดับลานิกา เขาว่าไว้





ชื่อหนังสือ  : หนังสือ เสิร์ฟ มัน ฮา ประสาบริกร  (Waiter Rant)
ชื่อผู้แต่ง     : Steve Dublannica
ชื่อผู้แปล     : โตมร สุขปรีชา
สำนักพิมพ์   : สำนักพิมพ์ มติชน
ครั้งที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่1 กันยายน 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น